ปฎิบัติการ “เอาแชมป์กูคืนมา”

มองย้อนกลับไปในเหตุการณ์สำคัญๆ ในปฎิบัติการ “เอาแชมป์กูคืนมา” ในฤดูกาลนี้
เริ่มฤดูกาลอย่างตั้งอกตั้งใจ
แมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศทั่วประเทศว่าเอาจริง ด้วยการถล่มฟูแล่ม 5 – 1 จากเกมรุกที่ฉกาจฉกรรจ์ในเกมแรกของฤดูกาลที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
เชลซีสะดุดเกือบจะทันที
โปรแกรมกลางสัปดาห์ต่อมาดูจะเป็นประโยชน์ต่อแมนฯ ยูไนเต็ด และวันพุธที 23 สิงหาคม ก็กลายเป็นคืนที่ดีของปีศาจแดง หลังจากเก็บชัยเหนือชาร์ลตัน และเชลซี ออกไปพ่ายที่มิดเดิ้ลสโบรห์
เสียท่าให้ไอ้ปืนใหญ่
การคว้าชัยสี่เกมรวดทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ยืนเป็นจ่าฝูงของลีก จนกระทั่งวันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน เมื่ออาร์เซนอล บุกมายัดเยียดความปราชัยคาโอลด์ แทรฟฟอร์ด ส่งปอร์ทสมัธ กระโดดขึ้นหัวตาราง แต่เราก็ยังมีอันดับเหนือเชลซี ด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่า
แต่ก็ไม่นาน
อาการสะดุดในลีกก็เกิดขึ้นอีกครั้ง จากการออกไปเสมอกับทีมน้องใหม่อย่างเรดดิ้ง ส่วนเชลซี ที่เก็บชัยชนะในลอนดอน ดาร์บี้ เหนือฟูแล่ม ก็ก้าวขึ้นไปนำสองคะแนน และที่น่าเหลือเชื่อก็คือ นัดนั้นเป็นครั้งเดียวที่เชลซี ขึ้นไปยืนเป็นจ่าฝูงตอนสุดสัปดาห์ และเป็นครั้งสุดท้ายที่แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้เป็น
การกลับมาของโซลชาร์
แชมเปี้ยนก็ยังติดขัดนิดหน่อยในเกมเสมอ 1 – 1 กับแอสตัน วิลล่า ในบ้าน วันเสาร์ที่ 30 กันยายน จากนั้นก็เดินเครื่องเต็มที่ด้วยการสอยนิวคาสเซิ่ล สองประตูจากโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์
สัปดาห์เลวร้ายของ เดอะ บลูส์
แม้จะเก็บสามแต้มเต็มจากการไปเยือนเรดดิ้ง เมื่อ 14 ตุลาคม แต่เชลซี ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนแสนแพง ด้วยการเสียปีเตอร์ เชค ไปจากการกระทบกระเทือนที่สมอง ต้องพักถึง 3 เดือนเต็ม ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด ยังนำอยู่ด้วยลูกได้เสียที่ดีกว่า
เดินหน้าเรื่อยๆ
ชัยชนะหอมหวานเหนือลิเวอร์พูล 2 – 0 ต่อด้วยการบุกถล่มโบลตัน เละเทะ 4 – 0 ด้วยแฮตทริกของเวย์น รูนี่ย์ และชัยชนะง่ายดายเหนือปอร์ทสมัธ 3 – 0 เชลซีพลาดอีกครั้งหลังจากที่เราเอาชนะปอมปีย์ การพ่ายต่อทีมร่วมเมืองอย่างสเปอร์ส เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี และกัปตันจอห์น เทอร์รี่ โดนไล่ออก ส่งให้ปีศาจแดง ก้าวขึ้นนำฝูงแบบเดี่ยวๆ
การเผชิญหน้าของสองผู้ท้าชิง
ทุกสายตาจับจ้องมาในเกมที่แชมเปี้ยนและผู้ท้าชิงมาเผชิญหน้ากันในวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด หลุยส์ ซาฮาซัดให้แมนฯ ยูไนเต็ด นำไปก่อน แต่ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ก็โหม่งตีเสมอให้ทีมเยือน ผลสุดท้ายก็เสมอกันไป 1 – 1
ยังทะยานต่อไป
9/10 ธันวาคม เป็นสัปดาห์สำคัญในการลุ้นแย่งแชมป์ ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะแมนฯ ซิตี้ 3 – 1 แต่อาเซนอล บุกไปยันเสมอ 1 – 1 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ แมนฯ ยูไนเต็ด ครองตำแหน่งจ่าฝูงด้วยผลต่าง 8 คะแนน
พลาดท่าที่ลอนดอนตะวันออก
เชลซีไต่กลับขึ้นมามีลุ้นหลังจากพลิกสถาณการณ์มาชนะเอฟเวอร์ตัน 3 – 2 หลังจากตกเป็นรอง 2 – 1 ที่กูดิสัน ปาร์ค ในขณะเดียวกันที่ปีศาจแดง ไปแพ้ขุนค้อนเวสต์ แฮม ที่อัพตัน ปาร์ค 1 – 0
ของขวัญจากเชลซี
และอีกครั้งหนึ่งที่เชลซี พลาดโอกาสของตัวเอง ด้วยการทำได้เพียงเสมอกับวีแกน ในบ้านเมื่อวันบ็อกซิ่ง เดย์ 26 ธันวาคม ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด ลดความกดดันของตัวเองไปด้วยการเชือดวีแกน 3 – 1 ในช่วงถัดมา
สวัสดีปีใหม่!
สี่วันหลังจากนั้น แต้มห่างสี่แต้มก็ขยายไปเป็นหก หลังจากที่เชลซี ทำได้เพียงแค่เสมออีกครั้งกับฟูแล่ม และในขณะเดียวกันอีกครั้ง ที่แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะทิ้งแต้มห่างไป จากสองประตูของโรนัลโด้ ช่วงให้ทีมผ่านเรดดิ้ง ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไปได้
นิวคาสเซิ่ล พิสูจน์ตัวเอง
งานฉลองปีใหม่ไม่สมบูรณ์เล็กน้อย เมื่อปีศาจแดงไม่สามารถบุกไปเอาชนะนิวคาสเซิ่ล ได้ที่เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ในวันปีใหม่ ดาร์วิด เอ็ดการ์ ดาวรุ่งของนิวคาสเซิ่ล ซัดไกลตีเสมออย่างเจ็บแสบ แต่ก็อีกครั้ง ที่เชลซี ไม่สามารถฉกฉวยความได้เปรียบ เมื่อทำได้แค่เสมอ 0 – 0 เช่นกันกับแอสตัน วิลล่า
พลาดกันทั้งคู่
เชลซี ออกไปโดนลิเวอร์พูล เชือดนิ่มๆ ไป 2 – 0 ในขณะที่ลูกยิงช่วงทดเวลาบาดเจ็บของเธียรี่ อองรี ก็ส่งให้แมนฯ ยูไนเต็ด พ่ายอาร์เซนอล แบบไปกลับที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
สามแต้มแล้ว
เชลซี กดดันแมนฯ ยูไนเต็ด เหลือเพียงสามแต้ม หลังจากลงเล่นก่อนและเอาชนะชาร์ลตัน ไปได้ แต่แมนฯ ยูไนเต็ด ก็โชว์ฟอร์มเทวดาไล่ถลุงสเปอร์ส 4 – 0 คาเล้า
กระท่อมน้อยคอยรัก
เชลซี มีโปรแกรมต้องลงแข่งคาร์ลิ่ง คัพ นัดชิงกับอาร์เซนอล ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสทิ้งไปเป็น 9 แต้ม จากลูกโซโล่เดี่ยวของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ เข้าไปยิงเป็นประตูชัยเหนือฟูแล่ม ที่คราเวน คอทเทจ
โอเย้ โอเชีย
ปีศาจแดงทะยานนำห่างไปเป็น 12 แต้ม จากลูกยิงแห่งฤดูกาลของจอห์น โอเชีย ในแอนฟิลด์ แต่เชลซี ก็พยายามไล่มาเป็น 9 แต้มหลังบุกไปชนะที่แฟรตตัน ปาร์ค ในคืนเดียวกัน
ยังไล่ตามมา
เชลซี ไล่เหลือเพียงหกแต้มในช่วงกลางเดือนมีนาคม หลังจากบุกไปเชือดแมนฯ ซิตี้ ได้ 1 – 0 ทำให้การลุ้นแชมป์ยังตื่นเต้นอยู่
ท้ายเกมอีกแล้ว
แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลงเล่นก่อน และทำผลงานสุดยอดอีกครั้งในการเปิดบ้านถล่มแบล๊กเบิร์น กระจุย 4 – 1 เชลซี ที่ลงเล่นทีหลังดูเหมือนจะทำพลาดอีกครั้งในการไปเยือนวัตฟอร์ด แต่ประตูชัยช่วงนาทีสุดท้ายของซาโลมอน กาลู ก็ช่วยให้เชลซี ยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์อยู่
ชายแดนใต้ระอุ
แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดท่าในเกมเยือนด้วยการลงใต้ไปพ่ายให้กับปอร์ทสมัธ 2 – 1 และคราวนี้เชลซี ก็ไม่พลาดที่จะทำแต้มไล่กดดันหลังจากแก้แค้นคู่อริอย่างสเปอร์ส ด้วยสกอร์ 1 – 0 บีบช่องว่างเหลือเพียงแค่ 3 แต้ม
เริ่มกดดันขึ้นทุกที
แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้เพียงแค่เสมอกับมิดเดิ้ลสโบรห์ เมื่อวันที่ 21 เมษายน ทำให้เชลซี อาจจะตามเหลือแต้มเดียวถ้าพวกเขาบุกไปเอาชนะนิวคาสเซิ่ล แต่ต้องขอบคุณนิวคาสเซิ่ล เมื่อพวกเขาสามารถยันเสมอ 0 – 0 ทำให้ช่องว่างยังเป็นสามแต้มเท่าเดิม
โลกคือละคร
คราวนี้ทั้งสองทีมได้โอกาสลงเล่นพร้อมกัน ปีศาจแดงออกไปเยือนเอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสัน ปาร์ค ในขณะที่เชลซี เฝ้าบ้านรับการมาเยือนของโบลตัน ความตื่นเต้นของการไล่ล่าแชมป์เริ่มต้นตั้งแต่นาทีแรก เชลซี ไล่ตีเสมอ และพลิกขึ้นนำ 2 – 1 ในครึ่งเวลาแรก ในทางกลับกันที่แมนฯ ยูไนเต็ด พบว่าตัวเองต้องตาม 2 – 0 หลังจากเริ่มครึ่งหลังได้ไม่นาน กระโดดข้ามไป 40 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาชนะอย่างเหลือเชื่อ 4 – 2 ในขณะที่เชลซี กลับพลาดท่าโดนไล่ตีเสมอเจ็บปวด แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 5 แต้มในวันที่ตื่นเต้นที่สุดวันหนึ่งในพรีเมียร์ ลีก
แชมป์เปี้ยน!!
ลูกจุดโทษของโรนัลโด้ และการเซฟจุดโทษแห่งฤดูกาลจากดาริอุส วาสเซลล์ ของเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ พาแมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 8 แต้มเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม อีก 24 ชั่วโมงถัดมาเชลซี ไม่สามารถเอาชนะอาร์เซนอล ได้ ทำให้ปีศาจแดงเถลิงบัลลังค์แชมป์พรีเมียร์ ลีก เป็นครั้งที่ 9!
Eric the King

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts

Jax